เลือกศูนย์ดูแลอย่างไร

ลือกศูนย์ดูแลแบบไหนดี

“เลือกศูนย์ดูแลแบบไหนเหรอ ง่ายมาก เข้ากูเกิล เปิดเวปดู โทรไปถาม” แค่นี้ก็ได้เหรอ

เลือกศูนย์ดูแลแบบไหนดี พูดเหมือนง่าย แต่จริงๆแล้วยาก ใครๆก็ต้องการ การดูแลที่ดี ปลอดภัย เพิ่มความสามารถให้เก่งขึ้นได้ ได้ทำกายภาพกับนักกายภาพบำบัดทุกวัน กินดีอร่อยถูกใจ สถานที่สะอาด เข้าเยี่ยมได้ เดินทางสะดวก และที่สำคัญอยู่แล้วมีความสุข ไม่อายใครว่าเอาไปทิ้งที่ศูนย์ดูแล

เห็นไหมครับ รายละเอียดเยอะ โอกาสเลือกแล้วไม่เป็นดั่งที่คิดไว้มาก ท่องไว้เลยครับ โทรพูดคุย เข้าดูสถานที่จริง ตรงปกไหม

ขั้นตอนต่อไป เลือกโดยใช้ปัจจัยใดมาเป็นตัวกำหนด

ถ้าใช้ราคาเป็นตัวกำหนด สมัยนี้ค่าครองชีพสูง ลำพัง จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ก็แพงแล้ว ทุกอย่างแพงไปหมด

1.ถ้าต่ำหมื่น หรือหมื่นห้า และต้องการความช่วยเหลือบ้าง พยายามหา รพ รัฐบาล อยู่แทนเถอะครับ อาจต้องพยายามหากันหน่อย โดยเฉพาะต่างจังหวัด เพราะเงินหมื่นเดียวคงคาดหวังบริการอะไรไม่ได้มาก รพ รัฐบาลไม่มีรายจ่ายค่าบุคลากรที่จะคิดเงินกับเรา

2.ถ้าประมาณสองหมื่น หาที่ที่ดูแลเอกชนได้แน่นอน แต่ถูกใจ ไม่ถูกใจ ต้องเข้าไปดูสถานที่นะครับ มักต้องเสียเงินเพิ่มเป็นค่าทำกายภาพกับนักกายภาพ นะครับ วันละ800-1000 บ.ราคารวมชักกระโดด เรียกว่าถ้าไม่พูดคุยกันให้ดี รู้เรื่องแต่แรก งบจะบานนะครับ เพราะไหนๆก็เข้าไปแล้ว เสียอีกหน่อยน่าจะดีนะ อยากให้ท่านเก่งขึ้น อันนี้เรียก ค่าใช้จ่ายแฝง

3.ถ้าสามหมื่นขึ้น อันนี้เลือกได้มากขึ้น แต่ก็ต้องเข้าไปดูสถานที่อยู่ดี ว่าดีถูกใจ จริงหรือไม่ บางครั้งดูแค่ในเวป ระวังไม่ตรงปก นะครับ เรื่องนักกายภาพบำบัดต้องถามเหมือนกันนะครับ เพราะทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย อย่าคิดเองว่า คิดรวมในค่าดูแลแล้วนะครับ

4.ถ้าราคาเกินสามหมื่น มีทางเลือกมากขึ้น ห้องเดี่ยว ห้องคู่ ชอบแบบไหน ข้อจำกัดลดลง แต่เหมือนกันครับต้องเข้าไปดูสถานที่ พูดคุย และสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายแฝง เช่นเงินมัดจำ ค่าคอร์สกายภาพ อื่นๆ

เห็นไหมครับ ไม่มีอะไรดีๆถูกๆ ทุกอย่างมีราคาของมัน นี่ยังไม่พูดคุยถึ่งเรื่องคุณภาพการดูแลนะครับ กิริยามารยาท การพูดจา สามารถให้คำปรึกษาได้ไหม ช่วยเหลือเราได้ไหมเวลาเกิดเหตุผิดปกติ ไม่ใช่ว่าอะไรๆ ก็ส่ง รพ ญาติถูกตามเวลาดึกดื่น ไม่ใช่เรื่องสนุกเลย หรือเกิดเรื่องแล้วยังไม่รู้ ดูไม่เป็น ส่ง รพ ก็ช้าไปมากแล้ว

ศูนย์ดูแลบ้านเราเปิดเยอะมาก ถ้าใช้มาตรฐานการดูแลมาเป็นตัวเลือก ว่าศูนย์ไหนดี จะยิ่งดู และเลือกยากไปอีก แพงหรือถูก อันนี้ราคาบอกไม่ได้แล้ว เพราะผู้ให้การดูแลบริการอยู่ใกล้ชิด เป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้มีคุณวุฒิ และวุฒิภาวะไม่มาก แต่ไม่ว่าอายุมากหรือน้อย บางครั้งทำสิ่งที่ไม่ควรทำ บางครั้งสิ่งที่ควรทำ ก็ไม่ทำ เกิดอันตรายก็มาก ไม่มีระบบคอยกำกับการทำงาน แม้เจ้าของเป็นหมอ หรือพยาบาล ก็ไม่ได้เป็นตัวรับประกันคุณภาพการดูแลนะครับ

พอถึงตรงนี้ ตกลงจะเลือกอย่างไรดี เอาแบบนี้ครับ จ่ายไหว ไม่ถูกเกินไป เข้าไปดูสถานที่ พูดคุยเรื่องการดูแลคร่าวๆ ผู้ช่วยเหลือคนไข้ กี่คน ขึ้นเวรอย่างไร มีใครคุม หรือกำกับการทำงานบ้างไหม ค่าใช้จ่ายแฝงอื่นที่ต้องรู้ และถ้ามีเหตุ จะรู้ได้อย่างไร ช่วยเราอย่างไร ได้บ้าง

แต่ถ้าเอาแบบเต็มที่เลย ต้องนี่ครับ High standard

ศูนย์ดูแลสามารถทำได้แค่ไหน แล้วแต่ศักยภาพแต่ละที่เลยครับ

1.ให้ความรู้ทางการแพทย์/การพยาบาล ของโรคที่ดูแลอยู่ได้

2.ให้รายละเอียดเรื่องการกิน การนอน การขับถ่าย และสามารถจัดการปัญหาได้ โดยไม่ำเป็นต้องใช้ยา เพราะเป็นเรื่องง่ายๆไม่ควรให้เป็นภาระกับญาติ

3.มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ยืมใช้ ได้ ไม่ต้องซื้อถ้าเป็นชนิดที่ไม่จำเป็นหรือต้องเป็นใช้ส่วนตัวเช่น

เครื่องเพิ่มความเข็มข้นออกซิเจน เนื่องจากราคาแพง และอาจใช้แค่ชั่วคราว เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด เครื่องพ่นยาขยายหลอดลม เครื่องพ่นไอน้ำ 

4.ที่สำคัญมากที่สุด ศูนย์นั้นมีระบบการทำปลอดเชื้อของอุปกรณ์ที่เป็นมาตรฐานหรือฟังดูดีหรือไม่

5.สามารถแยก หรือประเมินภาวะการเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้สูงอายุได้ เช่น 

•มีไข้ ตัวร้อนแบบไหนถึงควรจะไป รพ. 

•อาการสับสน กร้าวร้าวจัดการแบบนิ่มนวลได้อย่างไร 

•เกลือแร่ต่ำที่เป็นยังไม่มาก ยังไม่ใช่ภาวะฉุกเฉินซึ่งพบบ่อยในผู้สูงอายุด้วยสาเหตุต่างๆกันจัดการได้หรือไม่อย่างไร

•น้ำตาลต่ำรู้ได้อย่างไร และต้องสามารถจัดการได้ด้วย และถ้ากินทางปากไม่ได้ เพราะส่ง รพ ไม่ทัน

•คนไข้ใส่ท่อเหล็กที่คอ ถ้าหยุดหายใจ หรือหายใจช้าต้องเปลี่ยนท่อแล้วบีบAmbuสามารถทำได้หรือไม่ เพราะช่วยชีวิตได้เลย

•ควรมีเครื่องกระตุกหัวใจ(AED) เป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง

•ถ้าให้ครบน่าจะมีเครื่องช่วยหายใจด้วย ช่วยลดความเสี่ยงที่ต้องไป รพ ใหม่หรืออาจเสียชีวิตระหว่างส่งตัว